เชียงใหม่ริมดอย
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับพนักงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน
- นโยบายการใช้คุกกี้
- นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น และกรรมการ
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และคู่ค้า
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับพนักงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน
- นโยบายการใช้คุกกี้
- นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น และกรรมการ
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และคู่ค้า

ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น และกรรมการ
บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น และกรรมการ (“ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือ ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การเริ่มตั้ง การเพิ่มทุน ลดทุน การปรับโครงสร้างกิจการการเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การประชุมผู้ถือหุ้น การสรรหาและเป็นกรรมการบริษัท การประชุมคณะกรรมการบริษัท การจัดการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้น การจ่ายเงินปันผล การจัดทำบัญชีและรายงาน การตรวจสอบ เอกสารตามกฎหมาย การจัดส่งเอกสารหรือหนังสือต่าง ๆ รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่าง ๆ ของการเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (แล้วแต่กรณี)
1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลอื่น เช่น การบริหารจัดการบริษัท การบันทึกภาพหรือเสียงการประชุม การรักษาความปลอดภัย การจัดกิจกรรม หรือการส่งข่าวสารหรือข้อเสนอใด ๆ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น หรือกรรมการ รวมถึงเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
1.3 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัทที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัท
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัท
2.1 แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
- ข้อมูลที่ได้จากท่านโดยตรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจองหุ้น เข้าชื่อซื้อหุ้น การจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นหรือจากเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น
- การติดต่อกับท่านผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น การประชุมสามัญ/วิสามัญประจำปีของบริษัท หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น กล้องวงจรปิด อุปกรณ์บันทึกภาพ เป็นต้น
- การสนทนาระหว่างท่าน และบริษัทรวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
- ข้อมูลที่บริษัทได้รับหรืออาจได้รับเมื่อท่านเข้าใช้ระบบ เครื่องมือ หรือเว็บไซต์ของบริษัท
- การเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ของบริษัท
ในบางกรณี บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่น เช่น เช่น นายทะเบียนหุ้น นายทะเบียนหลักทรัพย์ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เป็นต้น
2.2 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล์
- ข้อมูลอาชีพ: ประสบการณ์และประวัติการทำงาน และบริหารหรือการดำรงตำแหน่งในบริษัทอื่นหรือกิจการอื่น ๆ
- ข้อมูลครอบครัว: ชื่อ และข้อมูลอื่น ๆ ของคู่สมรสและสมาชิกในครอบครัว และผู้อยู่ในความอุปการะของท่าน รวมถึงการถือหุ้น ประวัติการจ้างงาน และการบริหารหรือการดำรงตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ ของบุคคลดังกล่าว
- ข้อมูลทางการเงินและธุรกรรม: ข้อมูลบัญชีธนาคาร
- รายละเอียดการถือหุ้น: เลขทะเบียนผู้ถือหุ้นบันทึกของผู้ถือหุ้น รวมถึงการถือครองหุ้น จำนวนหุ้น การจองหุ้น การซื้อหุ้น การจำหน่ายหุ้น สิทธิในการรับเงินปันผล การลงคะแนนเสียง การแต่งตั้งผู้รับมอบฉันทะ คำเสนอซื้อและเสนอขาย เงื่อนไขในการใช้สิทธิ และวันใช้สิทธิ สำเนาข้อซักถามและข้อร้องเรียนของผู้ถือหุ้น และการติดต่ออื่น ๆ ระหว่างท่านและบริษัท ในฐานะผู้ถือหุ้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญา: ข้อกำหนด และเงื่อนไขของสัญญาผู้ถือหุ้นของท่าน
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data):
- ข้อมูลศาสนา
- ข้อมูลสุขภาพ เช่น การแพ้อาหาร แพ้ยา
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านบางประเภท เพื่อให้ท่านสามารถทำหน้าที่ของท่านในฐานะผู้ถือหุ้น และเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลประเภทนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถกระทำได้
2.3 การปฏิเสธให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
2.4 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ โดยจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง รวมทั้งจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่กำกับดูแล ข้อมูลที่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ ดังนี้
(1) ในกระบวนการสรรหา บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ที่สามารถใช้ในการยืนยันตัวตนได้ เช่น ชื่อนามสกุล เพศ เลขที่บัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด สัญชาติ สถานที่เกิด ส่วนสูง
(2) สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม เช่น การจ่ายค่าตอบแทน การจัดอบรม กิจกรรม สถานะการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส/ผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา บุตร บิดามารดา พี่น้อง หมู่โลหิต หมายเลขบัญชีธนาคาร อีเมล ประวัติการศึกษา อาชีพ ประวัติการทำงาน การเป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ การเข้าประชุมคณะกรรมการบริษัทหรือคณะกรรมการชุดย่อยหรือผู้ถือหุ้น ค่าตอบแทนกรรมการ ข้อมูลการถือหลักทรัพย์ ชื่อบริษัทหลักทรัพย์ ผลการปฏิบัติงานของกรรมการ และข้อมูลอื่นตามที่กฎหมายหรือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีกำหนด
ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท บริษัทอาจปฏิเสธการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมาย โดยบริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยใช้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
---|---|
|
|
|
|
|
|
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
4.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น
- ผู้รับเหมาช่วง หรือผู้ให้บริการใด ๆ ที่ทำงานให้กับบริษัท หรือให้บริการแก่บริษัท เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดการประชุม ทั้งนี้รวมถึงผู้รับเหมาช่วง ผู้ให้บริการ ผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว
- ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลผลประโยชน์ใด ๆ ของท่าน
- คนกลาง บุคคลผู้ติดต่อ และตัวแทนของท่าน
- สถาบันทางการเงิน และผู้ให้บริการรับชำระเงิน ผู้รับประกันและตัวแทนหรือนายหน้าของผู้รับประกัน บริษัทหลักทรัพย์ ที่ปรึกษา ผู้ให้บริการทางวิชาชีพ
- บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวม หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งบริษัท มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่าง บริษัทและท่าน
- หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด รัฐบาล ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท
- บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
- หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ
- บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของ หรือในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น)และ/หรือ
- บุคคลใด ๆ ที่บริษัทได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว
4.2 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อจัดเก็บ และ/หรือ ประมวลผลในการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่าน และบริษัทโดยบริษัท จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และจะกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะเคารพสิทธิของท่านและจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่านภายใต้สถานการณ์บางประการ อย่างทันท่วงที
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
6.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากบริษัทสามารถใช้ฐานอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัท
6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์
6.4 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัท ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธินี้จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัท จะพิจารณาแต่ละคำขอด้วยความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.5 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การบันทึกและวิเคราะห์ลักษณะทางจิตวิทยาและพฤติกรรมของบุคคล (Profiling)
6.7 สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัท แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้บริษัท พิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.8 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านสามารถขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้
6.9 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัท หรือพนักงานของบริษัท หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ. หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ. ดังกล่าว
ท่านอาจใช้สิทธิข้างตนของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัท ผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 8 ด้านล่าง บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
บริษัทจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัท อาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัทจะตรวจสอบและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอ ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือ เข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท
8. การจัดการกับเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย
ท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัท จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือสอบถามข้อสงสัยได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 164/34-36 ถนนช้างคลาน
ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
เบอร์โทรศัพท์ : (053) 271-420 หรือ
ติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท ผ่านทางอีเมล์ที่ pdpc@cmrd.co.th