เชียงใหม่ริมดอย
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับพนักงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน
- นโยบายการใช้คุกกี้
- นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น และกรรมการ
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และคู่ค้า
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับพนักงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน
- นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน
- นโยบายการใช้คุกกี้
- นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น และกรรมการ
- ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และคู่ค้า

ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และคู่ค้า
บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและคู่ค้า (รวมเรียกว่า “ท่าน”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.”) และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายและกฎระเบียบอื่นๆ ที่จะประกาศใช้ภายใต้ พ.ร.บ.ดังกล่าว บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือ ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น เพื่อการบริการให้แก่ท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาใดๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา รวมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และดำเนินการใดๆ เพื่อให้ท่านได้รับบริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ
1.2 เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
1.3 เพื่อการการทำธุรกรรม รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนตามกระบวนการ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้
1.4 เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้
1.5 เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา
1.6 เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งภายในและภายนอก)
1.7 เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
1.8 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัท ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัท
1.9 เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ ตามความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัท ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ลักษณะของการให้บริการ และ/หรือ ธุรกรรมที่ท่านทำกับบริษัท
2.1 แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
- เมื่อท่านขอรับบริการจากบริษัท
- การสนทนาระหว่างท่าน และบริษัทรวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
- เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท
- แบบสำรวจความเห็นของลูกค้า และการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท
- เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลผ่านทาง Social Media ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่ท่านเลือกให้ปรากฏต่อสาธารณะเท่านั้น
- เมื่อบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอก เช่น บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น และ/หรือ
ในบางกรณี บริษัทอาจร่วมกับบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่บริษัทในเครือของบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับแบบสำรวจความเห็นของลูกค้าเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้ง และเปิดโอกาสให้ท่านปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวได้
ทั้งนี้บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต หรือข้อมูลอื่นใด นอกเหนือไปจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ระบุไว้แล้วข้างต้น ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏอยู่บน บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัท
2.2 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เอกสารสำคัญของนิติบุคคลที่ออกให้โดยราชการ (กรณีลูกค้าเป็นนิติบุคคล) หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ภาพถ่าย ภาพหรือบันทีกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์
- ข้อมูลทางการเงิน: ข้อมูลบัญชีธนาคาร ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน เลขที่บัตรเครดิต และชื่อผู้ถือบัตร และรายละเอียดของบัตรเครดิต
- ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data):
- ข้อมูลศาสนา
- ข้อมูลสุขภาพ
- ประวัติอาชญากรรม
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านบางประเภท เพื่อใช้ในส่งมอบสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่านอย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลประเภทนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถกระทำได้
2.3 การปฏิเสธให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทบริษัทอาจปฏิเสธการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมาย โดยบริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยใช้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
---|---|
งานบริการ | |
|
|
การดูแลลูกค้า | |
|
|
การพัฒนาธุรกิจ | |
|
|
การบริหารความมั่นคง ความปลอดภัย และความเสี่ยง | |
|
|
การตลาด | |
|
|
4.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
4.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น
- ผู้รับเหมาช่วง หรือผู้ให้บริการใดๆ ที่ทำงานให้กับบริษัท หรือให้บริการแก่บริษัท ทั้งนี้รวมถึงผู้รับเหมาช่วง ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว
- ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลผลประโยชน์ใดๆ ของท่าน
- คนกลาง บุคคลผู้ติดต่อ และตัวแทนของท่าน
- สถาบันทางการเงิน และผู้ให้บริการรับชำระเงิน
- บุคคล หรือบริษัทใดๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวมกิจการ หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใดๆ ซึ่งบริษัทมีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างบริษัท และท่าน
- หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใดๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท
- บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
- หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริตและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ
- บุคคลใดๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน สินค้า หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น) และ/หรือ
- บุคคลใดๆ ที่บริษัทได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว
4.2 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อจัดเก็บ และ/หรือ ประมวลผลในการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่าน และบริษัท โดยบริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และจะกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทแล้ว โดยบริษัทจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่าระยะเวลานานกว่านั้น
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะเคารพสิทธิของท่านและจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่านภายใต้สถานการณ์บางประการ อย่างทันท่วงที
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
6.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากบริษัทสามารถใช้ฐานอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัท
6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์
6.4 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัท ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธินี้จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัทจะพิจารณาแต่ละคำขอด้วยความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.5 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การบันทึกและวิเคราะห์ลักษณะทางจิตวิทยาและพฤติกรรมของบุคคล (Profiling)
6.6 สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้บริษัทพิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.7 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านสามารถขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้
6.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัท หรือพนักงานของบริษัท หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หรือประกาศอื่นๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว
ท่านอาจใช้สิทธิข้างตนของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 8 ด้านล่าง บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
บริษัทจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัท อาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าวบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัทจะตรวจสอบและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอ ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือ เข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท
8. การจัดการกับเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย
ท่านสามารถติดต่อบริษัทเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือสอบถามข้อสงสัยได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
ติดต่อที่ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 164/34-36 ถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
เบอร์โทรศัพท์ : (053) 271-420 หรือ
ติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทผ่านทางอีเมล์ที่ pdpc@cmrd.co.th
9. การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว
ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยที่บริษัทจะทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ และอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กระทบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ โดยท่านสามารถดูการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุด ได้จากวันที่ด้านล่างของประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท [www.cmrd.co.th]